เป็นคนแรกที่ได้ลองทำสูตรนี้ 0 ความคิดเห็น
โขลกพริกแห้ง กระเทียม หอมเล็ก ขมิ้น ตะไคร้ กะปิ เกลือป่น เข้าด้วยกัน ตำให้เเหลกเลยนะค่ะ 5. ตั้งกะทะ ใส่น้ำมันพืช นำพริกเเกงที่โขลกจากข้อ 4 ใส่ลงผัดให้หอมค่ะ ฮะซิ้ว!!!! เตะจมูกเลย เติมน้ำซปลงไปพอคลุกคลิก ใส่ซีอิ๊วขาว ใส่เนื้อปลาที่ฉีกไว้ลงไป ผัดให้เข้ากันค่ะ 6. เติมน้ำซุปปลาที่เเบ่งไว้ลงไป ประมาณ 1. 8 ลิตร ต้มต่อจนเดือด 7.
ม. - กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ เครื่องปรุงเนื้อปลา - เนื้อปลา ใช้ปลาน้ำดอกไม้ 1 กก. - ตระใคร้ 2 ต้น - ขมิ้น เครื่องปรุงแกง - หยวกกล้วย ยาว 20 ซ. - น้ำซุปปลา ได้จากการต้มปลา - พริกแกง - แป้งถั่วลูกไก่ (Chick Pea) 1/4 ถ้วย (ใช้แป้งถั่วเขียวแทน) - ข้าวคั่ว 1/4 ถ้วย - น้ำปลา - กะทิ* บางสูตรของโมฮิงกา จะใส่กะทิด้วย ส่วนใหญ่จะไม่ใส่ เครื่องเคียง - ลูกชิ้นปลาทอด ได้จากเนื้อปลาผสมขิง กระเทียม ปั้นเป็นก้อน นำไปทอด - หอมเจียว - พริกป่น - ไข่ต้ม - ถั่วฝักยาวซอย - ผักชีซอย - มะนาว - ถั่วเขียวทอด (คล้ายๆ ถั่วลิสงทอดที่เป็นแผ่น) เตรียมพริกแกงตามสูตร ใส่เครื่องปั่น (เร็วดี) ปลาที่ใช้ในน้ำยาโมฮิงกา ที่เมียนม่า จะเป็นปลาน้ำจืด แต่ใช้ปลาน้ำดอกไม้ 1 กก. ทำ เพราะเนื้อเยอะดี แกะเนื้อปลาง่าย และเนื้อปลามีรสหวาน นำปลาน้ำดอกไม้ไปต้มกับ ตระใคร้ และ ขมิ้น ใส่น้ำ 1. 5 ลิตร พอปลาสุก ตักปลามาแกะเอาเนื้อ ส่วนน้ำต้มปลาตักตระใคร้กับขมิ้นออกไป นำน้ำต้มปลาไปปรุงน้ำยาต่อไป หยวกกล้วย ไปตัดมาจากต้นกล้วยที่บ้าน ใช้หยวกกล้วยยาว 20 ซ. หั่นเป็นแว่นๆ หนา 5 มม.
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล | 27 มี. ค. 2565 เวลา 7:21 น. 1. 1k ดอกไม้งามไม่เพียงทำให้ผู้รับรู้สึกตัวลอยและประทับใจกับความรักที่ถูกส่งมอบมาให้เท่านั้น แต่ดอกไม้ ยังสามารถนำมารังสรรค์ ให้กลายเป็นเมนูอาหารที่ทั้งทานได้ แถมได้สุขภาพดี รสชาติอร่อยอีกต่างหาก และยิ่งผสานสไตล์"โอมากาเสะ"เข้าไปด้วยแล้วละก้อ รับรองแจ่มเลย ใครมีแพลนมาเที่ยวเชียงใหม่ พลาดไม่ได้ กับประสบการณ์ไดนิ่ง Chef's Table คอนเซปต์ ศิลปะประกอบอาหารด้วยดอกไม้ทานได้ (Edible Flower) ผสานสไตล์ " โอมากาเสะ " ณ บ้านวสุนธารา สวนเกษตรอินทรีย์ & โฮมสเตย์ ในโลเคชั่น อำเภอสันทราย จ.