ศ. 2544 ก็มีอัตราการเติบโตของตลาดพุ่งเกิน 100% โดยในปี พ. 2545 มูลค่าตลาดกระโดดไปถึง 1. 000 ล้านบาทและเพิ่มเรื่อย ๆเป็น 1. 500 ล้านบาท ในปี พ. 2546 พอมาในปี พ. 2547 มูลค่าการตลาดสูงไปถึง 3. 200 ล้านบาทแปลว่าในปีที่ 3 ของเกิดผลิตภัณฑ์ชาเขียวพร้อมดื่มมีอัตราเติบโต 100% คิดดูเฉพาะน้ำชาเขียวยี่ห้อโออิชิที่แปลเป็นไทยว่าอร่อยเพิ่งจะสู่ตลาดประมาณปีกว่า และขึ้นอันดับหนึ่งของชาเขียวพร้อมดื่มทั้งหมดนั้น มีกำลังการผลิตถึง 1. 2 ล้านขวดต่อวันตีว่าขวดละประมาณ 20 บาท ฉะนั้นรายได้ที่ได้จาก การจำหน่ายประมาณร่วมเดือนละ 600 ล้านบาทต่อเดือน เมื่อเริ่มแรกมีแบรนด์ของยูนิฟและโออิชิเท่านั้นที่ขึ้นแท่นแต่ ตอนนี้เริ่มยี่ห้อหลากหลายให้เลือกมากขึ้น ลองมาดู ACNielsen (Thailand) ltd and Tetra Pak (Thai) Ltd. รวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับส่วนแบ่งการตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในปี พ. 2547 ดังนี้โออิชิ 36. 9% ยูนิฟ 36. 9%เซนชะ 6. 2% ลิปตัน 5. 8% พ็อกกา 1. 7% ทิปโก้ 1. 6% ชาลีวัง 1. 4% อื่น ๆ 7.
มาวันนี้กลับ "สิ้นมนต์ขลัง" เพราะผู้บริโภคเริ่มไม่รู้สึกตื่นเต้นกับเแคมเปญเดิมๆ อีกต่อไปแล้ว ทำให้ขาประจำที่บริโภคชาเขียวพร้อมดื่มตบเท้าเมินสินค้ากันมากขึ้น ท้ายที่สุดบิ๊กแบรนด์ที่เคยขายดิบขายดี โกยเงินเป็นกอบเป็นกำ ต้องเจอกับยอดขายที่ลดลง แคมเปญชาเขียว โออิชิ ปี 2561 แคมเปญชาเขียว อิขิตัน ปี 2558 เคราะห์ซ้ำกรรมซัดในตลาดชาพร้อมดื่ม เมื่อรัฐบาลมีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ชาเขียวที่ใช้ผลผลิตทางการเกษตรและได้รับการยกเว้นภาษีมาตลอด ก็ถูก "รีดภาษี" 10% จากราคาขายปลีก และยังโดนเก็บภาษีความหวาน สำหรับสินค้าที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 6% ต่อเครื่องดื่มปริมาตร 100 มิลลิลิตร (มล. )
5% และเชิงปริมาณ 161. 6 ล้านลิตร เติบโต 3. 7% ทั้งนี้ เมื่อแบ่งเซ็กเมนต์ ตลาด Main stream มูลค่า 4, 289 ล้านบาท เติบโต 10. 7% ชาสมุนไพรมูลค่า 898 ล้านบาท ติดลบ 8. 4% ชาผสมวุ้นมะพร้าวมูลค่า 576 ล้านบาท ติดลบ 22. 6% และตลาดชาพรีเมียมมูลค่า 676 ล้านบาท เติบโต 33. 4% ส่วนปี 2561 มูลค่า 1, 171 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ชาพรีเมียมมีสัดส่วนตลาด 11% จากตลาดชาทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดิมมีสัดส่วน 9% และสิ้นปี 2562 คาดว่าสัดส่วนจะเพิ่มเป็น 13% ปัจจุบันตลาดชาพร้อมดื่มมีโออิชิเป็นผู้นำ มีส่วนแบ่งทางการตลาด 44. 6% อิชิตัน 31. 9% เมื่อดูเฉพาะเซ็กเมนต์พรีเมียมแบรนด์ชิซึโอกะ มีส่วนแบ่งทางการตลาด 37% ฟูจิชะ 35% อิโตเอ็น 23% และโออิชิ โกลด์ 4% ความพยายามและอิทธิพลของแบรนด์ "อิชิตัน" ในครั้งนี้ ทำให้สมรภูมิชาเขียวกลับมาน่าสนใจอีกระลอก ว่าความพยายามใช้อาวุธทางการตลาดที่มีจะมีพลังมากพอที่จะดึงฐานผู้บริโภคที่เคยชื่นชอบชาเขียวพร้อมดื่มให้กลับมาเป็นแฟนคลับของเครื่องดื่ม Category นี้ได้หรือไม่.