62 จับกุมนายสมชายหรือปลั๊ก พร้อมของกลางไอซ์ น้ำหนักประมาณ 94. 66 กรัม คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 19 ส. 63 จับกุมนายสถาพร หรือ หนุ่ย พร้อมพวกรวม 2 คน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนประมาณ 110, 000 เม็ด คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 15 ก. พ. 64 จับกุมนายธรรมรัตน์ หรือ บอส ตามหมายจับศาลอาญาที่ 515/2563 ลง 4 พ. ย. 63 พร้อมของกลาง คีตามีน น้ำหนักประมาณ 1. 28 กรัม ยาอี จำนวนประมาณ 4 เม็ด คดีที่ 4เมื่อวันที่ 16 ต. 64 จับกุมนายประจิตร พร้อมพวก 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวนประมาณ 200, 000 เม็ด คดีที่ 5 เมื่อวันที่ 20 ต. 64 จับกุมนายศักดิ์สิทธิ์หรือคีฟพร้อมของกลางยาบ้า จำนวนประมาณ 1, 104, 000 เม็ด, ยาอีจำนวนประมาณ 1, 796 เม็ด (น้ำหนักประมาณ 8. 65 กรัม, คีตามีน น้ำหนักประมาณ 3. 4 กรัม และตรวจยึดยาบ้า จำนวนประมาณ 60, 000 เม็ด การปฏิบัติการยุทธการสยบไพรี 65/8 "ทลายแก๊งGerøgeHäper" (แคล้วคลาดปลอดภัย) 1. จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 6 คน 1. นายเจริญชัย 2. นายณัชธภพ 3. นายศรศักดิ์ หรือหนุ่ม 4. นายอิษฎา หรือบอม 5. นายณัฐวรรธน์ หรือเทอดศักด์ หรืออั๋น 6. นายนุกหรือโค๊ด พร้อมของกลางยาเสพติด 1. ยาบ้าจำนวนประมาณ 6, 800 เม็ด 2. ยาอีจำนวนประมาณ 300 เม็ด 3.
กรุงเทพฯ 25 ส. ค. -รอง ผบช. น. เผย ตำรวจตามจับผู้ต้องหา ก่อเหตุวางเพลิงเผารถยกและป้อมตำรวจ ระหว่างการชุมนุมแยกดินแดง เพิ่มเติมได้ 2 คดี พร้อมสรุปภาพรวมการชุมนุมวันนี้ พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สรุปภาพรวมการชุมนุมวันที่ 25 สิงหาคม โดยพบมีการชุมนุม 2 กลุ่ม คือ กลุ่มทะลุฟ้า บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา แยกเกียกกาย ประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 19. 00 น. โดยไม่มีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด ขณะที่การชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊ส บริเวณแยกดินแดง มีการก่อความวุ่นวาย ทั้งการเผาทำลาย และกีดขวางเส้นทางจราจร ซึ่งตำรวจได้ประสานกรุงเทพมหานคร จัดเตรียมชุดบรรเทาสาธารณภัย โดยเข้าดับเพลิงเรียบร้อย พร้อมย้ำว่า การทำให้เกิดเพลิงไหม้ ไม่ว่าจะเป็นความผิดส่วนตัว หรือ ทรัพย์สินราชการ เป็นความผิดในคดีอาญา ประกอบกับการรวมตัวชุมนุม จะมีความผิด ตาม พ. ร. ก.
อดุลย์กล่าวอีกว่า ในส่วนการเสียค่าปรับนั้น รถยนต์ทุกชนิดจะเสียค่าปรับ 500 บาทตามกฎหมาย แต่รถยนต์สี่ล้อมีค่ายกรถอีก 500 บาท และค่าดูแล 200 บาทต่อวัน ส่วนรถยนต์ 6 ล้อ มีค่ายกรถ 700 บาท ค่าดูแล 300 บาทต่อวัน และรถยนต์ 10 ล้อขึ้นไป มีค่ายกรถ 1, 000 บาท และค่าดูแล 500 บาทต่อวัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสถานที่จะนำรถไปจอดนั้น เบื้องต้นจะนำไปไว้ตาม สน. แต่ละ พื้นที่รับผิดชอบ แต่หาก สน. ไหนไม่มีสถานที่ ก็จะประสานภาคเอกชนให้จัดสถานที่เพื่อนำรถไปจอดไว้ให้ แต่ขณะนี้ยังไม่สรุปว่าเป็นพื้นที่ไหนบ้าง หากเรียบร้อยแล้วจะแจ้งให้ทราบต่อไป. อ่านเพิ่มเติม...
อาชญากรรม 24 กุมภาพันธ์ 2022 - 16:46 ตร. เจอรถก่อเหตุยิงถล่มนายก อบต. บางสมบูรณ์ แล้ว เตรียมดัดแปลง แต่ตร. พบก่อน จ่อนำมาตรวจสอบที่ สภ. ดงละคร ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยถึงถึงความคืบหน้ากรณีรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยิงถล่มรถตู้ ของ นายญาณกร โท้ประยูร นายก องค์การบริหารส่วนตำบลบางสมบูรณ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วน นายสมชาย ม่วงกาศ อายุ 63 ปี รองนายก อบต. บางสมบูรณ์ และ นายวัชระ นุชแดง อายุ 52 ปี คนขับรถ ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 ก. พ. ที่ผ่านมา บริเวณถนนปากท่อบางปรัง-เตยน้อย ม. 2 ต. ศรีจุฬา อ. เมืองนครนายก จ. นครนายก จากแนวทางการสืบสวน พบว่า นายธวัชชัย เป็นคนติดต่ออู่ซ่อมรถ จากนั้นนายรัฐพล หรือ นายบิ๊ก ฉายา "กุมารขาว" เป็นคนขับรถคันก่อเหตุไป ระหว่างทางนายบิ๊ก ติดต่อเรียกรถยกให้รับรถไปที่อู่ อ. บางละมุง จ. ชลบุรี ช่วงวันที่ 15-16 ก. โดยยกรถไปอู่แรก ในพื้นที่ ต. ตะเคียนเตี้ย อ. บางละมุง แต่ยังไม่ได้ซ่อม จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นอู่ที่สอง โดยมีการเคาะ เตรียมทำสีแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำ ซึ่งอู่แห่งนี้อยู่ในพื้นที่ อ. บางละมุง เช่นเดียวกัน เบื้องต้น รถคันก่อเหตุไม่มีการดัดแปลง ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดประตูรถได้ อยู่ระหว่างพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบก่อนจะนำรถมา สภ.
1ย้ำว่าตำรวจจะทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทั้ง2ฝ่าย
แก๊งตร. เก๊หัวเกรียนขับรถจี้เก๋งให้จอด ขอค้นรถคาดจะกรรโชกทรัพย์ สุดท้ายเกม คนในรถเป็นตร. จริง เลิ่กลั่กทั้งแก๊ง ยกมือขอโทษหนีอย่างไว วันที่ 26 ม. ค. 65 ที่ สภ. โพธิ์ทอง จ. อ่างทอง พ. ต. ท. สุรพล ต้อยจัตุรัส รองผู้กำกับสอบสวน สภ. โพธิ์ทอง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอ่างทอง ควบคุมกลุ่มชายฉกรรจ์ตัดผมเกรียน จำนวน 5 คน มาทำการสอบสวนขยายผลที่ สภ. โพธิ์ทอง หลังขี่รถจักรยานยนต์ประกบรถเก๋งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมโชว์บัตรตำรวจให้ดูจะขอตรวจค้น แต่อีกฝ่ายตอบกลับว่าเป็นตำรวจเหมือนกัน จึงขอโทษและขี่รถจักรยานยนต์หนีไป เบื้องต้นพบว่ามี 2 คน ที่ปลอมแปลงนำรูปหน้าของตนไปใส่ในบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ ระบุตำแหน่ง ส. และ ส. สังกัด กก. อารักขา 1 บก. อคฝ. ส่วนชื่อนั้นไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชนที่ทั้ง 2 คนถืออยู่ ภายในรถยนต์กระบะพบเสื้อกั๊กปักด้านหลัง สอบสวนกลาง อาร์มตำรวจ กก. 1 บก. ปคบ. กุญแจมือ ป้ายทะเบียนรถ สายรัด และเงินสดจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวว่า ใช้เอกสารข้าราชการปลอมและบัตรปลอม พร้อมขยายผลรอผู้ที่เสียหายมาทำการแจ้งความเพิ่มเติม โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลา 10.
รถกระบะโดนชนท้าย โดยตำรวจบอกว่าเราเลี้ยงกระชั้นชิด ้เาจะเลี้ยวชิดไหล่ทางเพื่อจอดข้างท้าง มีจักรยานยนต์ตามหลังมา หลังจากที่เลี้ยวมาแล้วชิดไหล่ทางมา60เมตรมอไซร์ถึงจะมาชนท้าย โดยมีภาพกล้องวงจรปิดก่อนชนระยะ60เมตรว่าเราเลี้ยวมาแล้ว และมอไซค์ขับรถมือเดียวแต่ตำรวจบอกว่ารถยนต์เป็นฝ่ายผิดผู้เดียว ฟังเราไม่ยอมเลยจะให้เค้าดำเนินคดีตามกฎหมาย ตำรวจแค่ลงบันทึกประจำวันไว้ ผ่านมา7วัน พรุ้งนี้จะเรียกไปไกล่เกลี่ยอีกครั้ง ในกรณีจะนำรถออกต้องใช้เวลากี่วันค่ะ แสดงความคิดเห็น