ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3. 3% ของเงินดอกเบี้ยที่ได้รับ โดยให้นำส่งภาษีดังกล่าวภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป โดยใช้แบบ ภธ. 40 ในการนำส่งภาษี 2. ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภงด. 50 โดยจะต้องนำเงินรายได้จากดอกเบี้ยดังกล่าวมาคำนวนร่วมกับรายได้ของบริษัทฯ ในรอบบัญชีที่เกิดรายได้นั้นๆ ที่มา: JobDST Job จ็อบดีเอสที สมัครงาน งาน หางาน หางานดี งานราชการ งานบัญชี งานนอกเวลางานอิสระ งานบริษัท มหาชน เอกชน รัฐวิสาหกิจ บรรษัท ค้นหาคนค้นหางาน ค้นหาพนักงานรับสมัครงาน รับสมัครพนักงาน ค้นหาคนดี ค้นหาคนเก่ง แหล่งรวบรวมข้อมูล บริษัทชั้นนำคนหางานทั่วประเทศ
นโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ จะหยุดใช้งาน โปรดศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ที่คุณกำลังจะเข้าถึง ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่
พ. 30 ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน สำเนาเอกสารสิทธิหลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน/นส. 3ก. สำเนาใบอนุญาตประกอบธุรกิจ (ถ้ามี) ธนาคารมีการเก็บข้อมูลการใช้คุกกี้ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ รวมถึงนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการของท่าน โดยขอให้มั่นใจว่าข้อมูลจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี คลิกดูรายละเอียด นโยบายการใช้คุกกี้ ของธนาคาร
ประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับ ให้วงเงินเพียงพอ ไม่มีเงื่อนไขจุกจิก สะดวก เพราะสามารถตรวจสอบวงเงิน O/D ได้ตลอด 24 ชม. ผ่านแอป ทีทีบี บิสสิเนสวัน ประหยัดต้นทุน ได้วงเงินแล้ว โอนฟรี!
"วิธีการให้เงินกู้ยืมแก่กรรมการ, พนักงาน" วิธีการให้เงินกู้ยืมแก่กรรมการ, พนักงาน โดยไม่คิดดอกเบี้ยจะได้มั๊ย หรือคิดแต่น้อย ถ้าได้ต้องทำอย่างไร? ถ้าตอบกันโดยตรงตามประมวลรัษฎากร ก็เปิดช่องเอาไว้เหมือนกัน โดยที่ประมวลนั้นได้กล่าวไว้ว่า อาจกระทำได้ แต่ต้องมีเหตุอันสมควร ทีนี้เราก็ต้องมาดูว่าเหตุใดบ้างที่ถือว่าเป็นเหตุอันสมควร ปรากฎว่าไม่มีบอกไว้เป็นการชัดเจนว่า ที่ว่าเหตุสมควรน่ะคืออะไร ให้อยู่ในดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นโดยทั่วไป จึงไม่มีเหตุใดอันสมควรเลย เมื่อไม่มีเหตุอันควร เราก็ต้องอาศัยผลประโยชน์อันพึงได้ของเงินนั้นๆ หากไม่เอาเงินนั้นไปให้กรรมการ, พนักงานกู้ยืม บริษัทฯจะได้ดอกเบี้ยหรือผลประโยชน์เป็นจำนวนเงินเท่าใดในระยะเวลาที่เท่าๆกันกับการให้ยืมเงิน และต้องไม่ต่ำกว่าอัตราตลาด! หมายความว่า 1. ต้องมีการคิดดอกเบี้ยต่อกัน 2. หากบริษัทฯมีเงินเหลือให้กู้ยืม เงินที่ให้กู้นั้นต้องคิดดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3. หากเงินที่ให้กู้ยืมนั้น ได้จากการที่บริษัทฯต้องไปกู้ยืมที่อื่นมาล่ะก็ ต้องคิดดอกเบี้ยในอัตราเงินกู้ยืม หรือในอัตราเบิกเงินเกินบัญชี O. D. เมื่อมีการคิดดอกเบี้ย ต่อกัน แล้ว จะเกิดภาษีขึ้น 2 ตัวคือ 1.
เท่าที่ทราบคือจะคิดดอกเป็นรายวันใช่ไหมครับ คำถามนะครับ 1. ต้องนำดอกเบี้ยต่อปีมาคิดเป็นวันก่อน จาก (1+(อัตราดอกเบี้ยต่อวัน/100))^365) = (1+(อัตราดอกเบี้ยต่อปี/100)) 2. สมมติอัตราดอกเบี้ยต่อปี = 7% จะได้ อัตราดอกเบี้ยต่อวันเป็นประมาณ 0. 019% ถูกไหมครับ 3. จากนั้นนำอัตราดอกเบี้ยต่อวันมาคิดดอกเบี้ยจากยอดเงินที่ติดลบในวันนั้นๆใช่รึเปล่าครับ 4. ถ้าตามด้านบนจะนำยอดเงินมาคิดดอกเบี้ย ณ เวลาใด ครับ ถ้าแต่ละธนาคารไม่เหมือนกัน ก็ขอเท่าที่ทราบก็ได้ครับ (ใช้กสิกรอยู่) 5. มีรูปแบบหรือเงื่อนไขอะไรพิเศษในการคิดนอกจากข้างต้นไหมครับ (เช่น วันหยุดต่างๆ ปีที่มี 366 วัน ฯลฯ) ขอบคุณมากครับ