ดีไซน์การออกแบบ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องของความสวยงามก็มีส่วนไม่น้อยในการเลือกอุปกรณ์สำรองข้อมูล iPhone ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของขนาด รูปทรง และสีสัน โดยในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้าขึ้นทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้เยอะขึ้นแต่ขนาดเล็กลง นอกจากนี้บางรุ่นยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ นอกจาก iPhone ได้ด้วย เพราะใส่พอร์ตเชื่อมต่อมาหลายแบบทั้ง USB-A, USB-C และ Lightning แต่หากเป็นแบบ HDD ขนาดก็จะใหญ่ขึ้นแต่การออกแบบก็จะมีให้เลือกหลากหลายเช่นกันรวมถึงใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆ ผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ด้วย 5. ระบบความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยอุปกรณ์สำรองข้อมูลบางรุ่น บางยี่ห้อจะมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นหรือระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อให้คุณใช้งานได้อย่างอุ่นใจมากยิ่งขึ้น เช่นต้องใช้งานร่วมกับระบบปลดล็อคของ iPhone อย่าง Touch ID เป็นต้น 6. ราคาและการรับประกันสินค้า ข้อสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ราคาและการรับประกันสินค้า โดยหากเป็นรุ่นที่ความจุสูงราคาก็จะแพงตามไปด้วย ซึ่งยี่ห้อก็มีส่วนเช่นกัน แต่หากผ่านการรับรอง MFi ก็ถือว่าคุ้มค่าและปลอดภัยในการซื้อมาใช้ และอย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขและระยะเวลาในการรับประกันสินค้าด้วย เพราะบางกรณีหากเกิดการชำรุดขึ้นเราอาจสามารถเปลี่ยนสินค้าได้หากอยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน แนะนำอุปกรณ์สำรองข้อมูล iPhone ยี่ห้อไหนดี 2021 1.
0: เป็นเทคโนโลยี USB ที่ใช้เวลาพัฒนาจนเปิดตัวในปี ค. 2011 (พ. 2554) ต่อมา ชื่อของ USB 3. 0 ก็ถูกแทนที่ด้วย USB 3. 1 Gen 1 ที่ส่งข้อมูลได้ความเร็วสูงสุด 5 กิกะบิตต่อวินาที (Gbit/s), USB 3. 1 Gen 2 ที่รับส่งข้อมูลได้เร็วถึง 10 Gbit/s และ USB 3. 2 ที่รับส่งข้อมูลได้เร็วถึง 20 Gbit/s ความจุของ Flash Drive ในยุคแรก ๆ มีความจุเพียง 8 MB. เท่านั้น แต่ในปัจจุบัน Flash Drive ได้พัฒนาทั้งชนิดของหน่วยความจำภายใน เทคโนโลยี USB ที่ใช้ จน ณ ปัจจุบัน Flash Drive ที่มีความจุสูงที่สุด อยู่ที่ 2 TB. กันเลยทีเดียว และนอกเหนือจาก Flash Drive ทั่วไปที่ใช้ USB Type-A แล้ว ยังมี Flash Drive สำหรับใช้กับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น Flash Drive ที่ใช้พอร์ต USB-C สำหรับมือถือแอนดรอยด์ แท็บเล็ตแอนดรอยด์, Falsh Drive พอร์ต Lightning สำหรับ iPhone, iPad บางรุ่น เป็นต้น Flash Drive แบบที่ใช้ในชีวิตประจำวัน Flash Drive ที่มีพอร์ต Lightning ในตัว ใช้งานร่วมกับ iPhone, iPad ได้ ความแตกต่างระหว่าง Flash Drive, Handy Drive และ Thumb Drive ต่างกันอย่างไร?
3 kg ต่อ 1 kWh หมายเหตุ: Tesla Model 3 SR+ นั้นก็ได้วางขายในบ้านเราเช่นกัน Tesla Model 3 Long Range อัตราส่วนอยู่ที่ 23. 7 kg ต่อ 1 kWh ส่วน Tesla Model 3 Long Range นั้นจะมีน้ำหนักสุทธิที่ 1, 940 kg มาพร้อมแบต 82 kWh(รุ่นปี 2021) สามารถทำอัตราส่วนได้ที่ 23. 7 kg ต่อ 1 kWh ทำให้ขว้าตำแหน่งอันดับ 5 ไปโดยปริยาย เอาล่ะครับ ลองมาดูการเปรียบเทียบอัตราส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายกันในบ้านเราบ้างดีกว่าครับ MG ZS EV อัตราส่วนอยู่ที่ 32. 8 kg ต่อ 1 kWh สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมในไทยของเรานั้นก็มีอยู่ในลิสต์นี้นั่นคือรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น MG ZS EV ซึ่งหนักประมาณ 1, 630 kg โดยรถยนต์รุ่นนี้นั้นได้อันดับที่ 45 รถยนต์ไฟฟ้า MG รุ่นนี้จะใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนความจุ 50 kWh โดยตัวเลขผลลัพธ์ที่ได้คือ 32. 8 kg ต่อ 1 kWh สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ถือว่าได้ผลลัพธ์ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลางที่ 30. 7 kg ต่อ 1 kWh Volvo XC40 มีอัตราส่วนอยู่ที่ 29. 5 kg ต่อ 1 kWh สำหรับอีกหนึ่งรุ่นที่มีขายในไทยนั่นคือ Volvo XC40 มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2, 300 kg สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้นั้นได้อันดับที่ 34 โดยรถรุ่นนี้มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 78 kWh โดยตัวเลขผลลัพธ์ที่ได้เฉลี่ยอยู่ที่ 29.
2 Gen 2×2 ซึ่งคุยว่ามีความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลสูงสุดถึงระดับ 2, 000MB/s มีขนาดเล็กกะทัดรัดและมีความจุสูงสุดให้เลือกใช้ถึง 2TB เลยทีเดียว คุณสมบัติและการออกแบบ Kingston XS2000 เป็น External SSD (Solid State Drive) ขนาดพกพาที่มีขนาดเพียง 69. 54 x 32. 58 x 13. 5 mm และหนัก 28. 9 กรัม เป็นไดร์ฟต่อพ่วงขนาดกะทัดรัดรุ่นใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพและความล้ำสมัย มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 2, 000MB/s โดยอาศัยการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB-C มาตรฐาน USB 3.